ทัวร์ภูเก็ต พังงา 4 วัน 2 คืน
ทัวร์ภูเก็ต พังงา เกาะไข่ “อลังการอ่าวพังงา สุดว๊าว! เกาะไข่ น้ำใส ทรายขาว ”ราคาเริ่ม 3,999 บาท เดินทางวันหยุด กุมภาพันธ์-พฤษภาคม 64 พักเมืองภูเก็ต 2 คืน เดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ
โปรแกรมทัวร์ ทัวร์ภูเก็ต พังงา 4 วัน 2 คืน
วันแรก | จุดนัดพบปั๊ม Shell แม็คโครแจ้งวัฒนะ – ออกเดินทางสู่จังหวัดพังงา |
17.00 น. | พร้อมกันที่จุดนัดหมาย จุดนัดพบปั๊ม Shell แม็คโครแจ้งวัฒนะ เจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความให้ทุกท่าน มีการพ่นยาฆ่าเชื้อในรถ เช็คอุณหภูมิร่างกาย และมีบริการแจกหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ท่านละ 1 ชุด จากนั้นออกเดินทางสู่ จังหวัดพังงา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง) อิสระให้ทุกท่านพักผ่อนบนรถตามอัธยาศัย |
วันที่สอง | พังงา – ท่าเรือสุระกุล (ท่าเรือกระโสม)หรือท่าด่านศุลกากร – ล่องเรือเที่ยวอ่าวพังงา – ถ้ำลอด – เขาพิงกัน – เขาตาปู เกาะเจมส์บอนด์ – เกาะปันหยี – เสม็ดนางชี – ภูเก็ต – แหลมพรหมเทพ |
เช้า | เดินทางถึง จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดที่มีภูเขาสลับซับซ้อน ทอดเป็นแนวยาวจากทิศเหนือไปทิศใต้แวะทานอาหารเช้า พร้อมทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย |
รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 1) | |
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือสุระกุล (ท่าเรือกระโสม) หรือท่าเรือด่านศุลกากร นำท่านล่องเรือเที่ยวอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ชมทิวทัศน์ของอ่าวพังงาที่จะทำท่านตื่นตาตื่นใจไปกับหน้าผาหินและเกาะที่มีรูปร่างแปลกตา ชมพื้นที่ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเป็นป่าชายเลนกว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 42 เกาะ เรียงรายไปตามน่านน้ำของป่าชายเลน | |
นำท่านนั่งเรือผ่านไปยัง ถ้ำลอด เป็นภูเขาลักษณะเกาะทะลุ เป็นถ้ำทะเลที่กำเนิดจากแรงกัดเซาะของคลื่นทะลุทุลวงจนเป็นโพรง ปากถ้ำกว้างประมาณ 50 เมตร สูง 40 เมตร มีหินงอกหินย้อยบนเพดานถ้ำที่สวยงาม สามารถนั่งเรือลอดผ่านถ้ำเข้าออกได้ทั้งสองด้าน เรือขนาดเล็กสามารถแล่นผ่านได้แต่จะลอดถ้ำได้เฉพาะช่วงที่น้ำลงเท่านั้น | |
จากนั้นล่องเรือมาที่ เขาตาปู เขาพิงกัน อยู่ในพื้นที่เดียวกัน เมื่อขึ้นจากเรือแล้วหันหน้ามองกลับไปจะสามารถมองเห็นผืนน้ำสีเขียวกับเขาตะปูที่มองเห็นจากบนเกาะเป็นภาพที่สวยงาม นำท่านถ่ายภาพเช็คอินรูปสวยๆ เขาตาปู หรือเกาะตาปู หรือเกาะเจมส์บอนดิ์ เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพังงา ลักษณะเป็นแท่งหินใหญ่ปักอยู่ในทะเลบริเวณปากอ่าวพังงาเมื่อมองจากระยะไกลจะเห็นเป็นลักษณะคล้ายกับตะปูขนาดยักษ์ถูกตอกลึกลงไปในน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่มีภาพยนตร์ฮอลลีวูดมาถ่ายทำในปี พ.ศ. 2517 เรื่องเจมส์ บอนด์ ตอนเพชฌฆาตปืนทอง (The Man with the Golden Gun) และได้รับการขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า James Bond Island นักท่องเที่ยวสามารถชมเขาตะปูได้ระยะไกลจากเรือ หรือชมจากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน และไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวล่องเรือเข้าไปดูเขาตะปูใกล้ๆโดยเด็ดขาด เนื่องจากส่วนที่จมอยู่ใต้ทะเลถูกน้ำทะเลกัดเซาะเป็นเวลานานและมีขนาดเล็กลงเกรงว่าอาจจะล้มลงมาได้และเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น | |
เขาพิงกัน ภูเขาหินขนาดใหญ่กลางทะเลในบริเวณอ่าวพังงา มีลักษณะพิเศษแปลกตากแตกต่างจากภูเขาอื่นใดทั้งสิ้น โดยมีลักษณะเป็นภูเขาสองลูกที่แนบยึดติดกัน เป็นแนวเส้นตรงจากยอดเขาสู่ตีนเขา เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก คือภูเขาแตกออกเป็นแนวตัดตรงและทรุดตัวต่ำลง ฐานเคลื่อนออกจากแนวเดิมเล็กน้อยเป็นเหตุให้แท่งหินซีกที่แตกออกตั้งเอียงพิงภูเขาลูกเดิมที่มีลักษณะคล้ายถูกของมีคมตัดเป็นเส้นตรงจากยอดเขาสู่ตีนเขาแต่ยังไม่ได้ถูกแยกออกจากกันกลับถูกปล่อยให้ยังคงแนบชิดติดกันจนถูกเรียกว่า เขาพิงกัน | |
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เกาะปันหยี | |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 2) |
บ่าย | เกาะปันหยี หรือบ้านกลางน้ำ ชื่อนี้มีที่มาเนื่องจาก“โต๊ะบาบู” ผู้นำชาวอินโดนีเซียอพยพมาเมื่อ 200 ปีก่อน เมื่อมาเจอเกาะปันหยีได้ขึ้นไปปักธงให้พรรคพวกที่อพยพ มาด้วยกันรู้ว่าเป็นสถานที่ เหมาะสมที่จะตั้งบ้านเรือน คำว่า “ปันหยี” แปลว่า “ธง” มีลักษณะเป็นหมู่บ้านที่ตั้งเรียงราย อยู่บนทะเลมีที่ดินนิดเดียวซึ่งเอาไว้เป็นที่ สร้างมัสยิดและกุโบว์ ชาวเกาะส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และสร้างหมู่บ้านแทบทั้งหมดด้านหน้าของหน้าผาหินปูนเหนือน้ำทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน บนเกาะปันหยีนั้นมีทั้งโรงเรียน สถานีอนามัย มัสยิด ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย และเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาแวะเยี่ยม |
ชมมีสินค้าที่ระลึกจำหน่าย เช่น ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผ้าบาติก สร้อย กำไล แหวน ที่ทำมา จากหอยมุก และยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีก เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบ กะปิและเป็นจุดพักทานอาหาร นักท่องเที่ยวมักนิยมมาทานอาหารกลางวันที่เกาะปันหยี | |
อีกหนึ่งความ Unseen บนเกาะปันหยี คือ สนามฟุตบอลลอยน้ำ แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากฟุตบอลโลก 1986 สนามฟุตบอลแห่งนี้มาจากความตั้งใจของเด็กๆในชุมชน และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลหลายรายการเลยทีเดียว ทำให้สนามฟุตบอลกลางทะเลแห่งนี้ เป็นที่เที่ยวไฮไลท์ของเกาะปันหยีอีกด้วย | |
จากนั้นเดินทางสู่ จุดชมวิวเสม็ดนางชี อยู่บ้านเสม็ดนางชี เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพังงา สามารถมองเห็นทัศนียภาพของอ่าวพังงาได้อย่างสวยงาม จุดวิวมี 2 จุด จุดแรกคือ จุดชมวิวเสม็ดนางชี ซึ่งเป็นจุดชมวิวดั้งเดิมที่เปิดตัวเสม็ดนางชี จะอยู่ถึงก่อนเสม็ดนางชี บูติค เล็กน้อย ข้างบนมีจุดชมวิวและที่พักในรูปแบบเต็นท์ให้บริการถัดจากจุดชมวิวเสม็ดนางชีไปประมาณ 100 เมตร คือ จุดชมวิวของเสม็ดนางชีบูติค ซึ่งให้บริการในรูปแบบที่พักทั้งแบบรีสอร์ทและเต็นท์ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ค้างคืนสามารถขึ้นไปชมวิวถ่ายภาพบริเวณร้านอาหารและร้านกาแฟได้ ทัวร์นำท่านชมวิว จุดชมเสม็ดนางชีบูติค อิสระถ่ายรูปเลือกซื้อเครื่องดื่มตามอัธยาศัย | |
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ จังหวัดภูเก็ต เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งไข่มุกอันดามัน เคยเป็นดินแดนที่รุ่งโรจน์และมีความมั่งคั่งจากการทำเหมืองแร่ดีบุก ภูเก็ตมีแร่ดีบุกมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งการขุดแร่ดีบุกที่ภูเก็ต มีประวัติความเป็นมากว่า 500 ปีมาแล้วมนต์เสน่ห์ของภูเก็ตอยู่ที่ ตัวเกาะที่มีลักษณะเว้าเป็นอ่าวไปทั่วเกาะ ซึ่งทำให้เกิดชายหาดที่สวยงามมากมาย | |
เดินทางสู่ แหลมพรหมเทพ ชมพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น จัดเป็นหนึ่งในจุดชมอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในเมืองไทย เป็นแหลมที่อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ตห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รอบข้างแวดล้อมด้วยต้นตาลที่ขึ้นแทรกอยู่เรียงรายตามต้นหญ้าที่พัดพลิ้วด้านขวาเป็นหาดในหานและเกาะมัน ส่วนด้านซ้ายจะมองเห็นหาดในยะซึ่งเป็นหาดเล็กๆ โดยทั่วไป นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเที่ยวหรือพักที่หาดใด พอช่วงใกล้เย็นพากันมาชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ หากมาเที่ยวในวันที่อากาศดี ท้องฟ้าเปิด มีเมฆน้อย บรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพจะสวยงามมาก หากมาในฤดูร้อนมีทุ่งหญ้าสีทองขึ้นปกคลุมสวยงามมาก มองเห็นเกาะแก้วน้อย เกาะแก้วใหญ่และเกามัน ส่วนในฤดูฝนจะเป็นสีเขียว รอบๆ แหลมพรหมเทพเป็นโขดหินขนาดใหญ่ยามคลื่นลมแรงจะเห็นฟองคลื่นสีขาว กระทบโขดหินอย่างงดงาม อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย | |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 3) |
หลังทานอาหาร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรม | |
ที่พัก: Twin Hotel หรือระดับเทียบเท่ากัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง) | |
วันที่สาม | Speed Boat เที่ยวเกาะไข่ ดำน้ำ เล่นน้ำ ชมฝูงปลา – ย่านเมืองเก่า Phuket old town – ตลาดชิลล์วา |
เช้า | บริการอาหารเช้า (มื้อที่ 4) |
นำท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือเพื่อนั่งเรือ Speed boat เที่ยวเกาะไข่ | |
ดำน้ำเกาะไข่ | |
10.00 น. | เดินทางถึงท่าเรือ ทำการเช็คอินและรับอุปกรณ์ดำน้ำ มีบริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟ อาหารว่าง พร้อมฟังบรรยายรายละเอียดโปรแกรมจากมัคคุเทศก์ |
10.30 น. | ออกเดินทางจากท่าเรือมุ่งหน้าสู่เกาะไข่นอก โดยเรือสปีดโบ๊ท เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสีใส และหาดทรายสีขาวสะอาด ทำกิจกรรมดำน้ำตื้นชมปะการัง และชมฝูงปลาที่สวยงาม จากนั้นท่านสามารถพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย |
12.00 น. | ออกเดินทางจากเกาะไข่นอก มุ่งหน้าสู่เกาะไข่ใน สนุกสนานกับกิจกรรมดำน้ำตื้นชมปะการัง และว่ายน้ำกับฝูงปลาที่สวยงามหลากหลายชนิด |
บริการอาหารกลางวัน (บริการแบบข้าวกล่อง) (มื้อที่ 5) | |
14.00 น. | ออกเดินทางจากเกาะไข่ใน มุ่งหน้ากลับสู่ท่าเรือ สมควรแก่เวลานำท่านกลับเข้าที่พักแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย |
หมายเหตุสำคัญ:โปรแกรมอาจสลับปรับเปลี่ยนหรือจะแตกต่างกันจากรายละเอียดทัวร์ ขึ้นอยู่กับสภาพของอากาศและสภาพของกระแสน้ำ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก | |
เย็น | นำท่านเดินทางไปถ่ายรูป เช็คอินสวยๆที่ Phuket old town ย่านเมืองเก่าภูเก็ต สุดคลาสสิค ชมตึกชิโนโปตุกีส หลากหลายสีสัน ชมอาคารบ้านเรือน ตึกสวยๆ ซึ่งตึกเหล่านี้ถูกสร้างในสมัยที่ชาวจีนและชาวตะวันตกหลั่งไหลเข้ามาในภูเก็ตเพื่อทำเหมืองแร่ ทำให้เกิดเป็นตึกที่มีการผสมผสานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว อาคารสวยๆ ที่ควรไปก็มีมากมาย และที่ห้ามพลาดคือไปถ่ายรูปกับหอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่านสวยงามนั่นเอง โดยย่านเมืองเก่านี้จะสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน ให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปอาคารบ้านเรือนสวยๆ การเดินชมย่านเมืองเก่าอันเป็นเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองภูเก็ต หลาดใหญ่ (ถนนคนเดิน) เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 16.00 – 22.00 น. |
เดินทางสู่ ตลาดนัดชิลล์วา ตลาดกลางคืนตกแต่งสถานที่สวยงาม เน้นการพักผ่อนหย่อนใจเป็นหลัก มากไปด้วยของขายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า หรือสินค้าแฟชั่นอื่นๆ รองรับทุกการพบปะสังสรรค์ด้วยร้านอาหารหลากหลาย | |
อิสระทุกท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยอิสระอาหารเย็นให้ท่านเลือกทานอาหารอร่อยๆตามอัธยาศัย | |
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักแรม | |
ที่พัก: Twin Hotel หรือระดับเทียบเท่ากัน (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนวันเดินทาง) | |
วันที่สี่ | วัดฉลอง หลวงพ่อแช่ม – ร้านของฝากคุณแม่จู้ – สุราษฎร์ธานี – จุดชมวิวเขื่อนรัชชประภา – กรุงเทพฯ |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 6) |
เดินทางสู่ วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต ก่อสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ต นำท่านแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่มและหลวงพ่อช่วง ผู้ก่อตั้งวัดฉลอง เพื่อเป็นสิริมงคล ชาวบ้านเลื่อมใสและศรัทธาหลวงพ่อทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีชื่อเสียงทางด้านการปรุงยาสมุนไพร และช่วยเหลือชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกชาวจีน (อั้งยี่) กรรมกรเหมืองแร่ที่ได้ก่อเหตุจลาจลในช่วงปีพ.ศ. 2419 เป็นวัดที่มีความสวยงาม มีมหาธาตุเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า มีงดงามเป็นอย่างยิ่ง | |
นำท่านแวะซื้อของฝากกันที่ ร้านคุณแม่จู้ ของฝากเมืองภูเก็ต มีของฝากขึ้นชื่อมากมายหลายอย่าง เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบตำสด,แกงไตปลา,ขนมเต้าส้อ เป็นต้น ให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย | |
หลังจากนั้นเดินทางผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำท่านแวะถ่ายรูป เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกดั้งเดิมว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งมีความโดดเด่นเลื่องชื่อในเรื่องของบรรยากาศอันงดงามของทะเลสาบกว้างใหญ่ ผืนป่าอันเขียวขจี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความงามของภูเขาหินปูนและสายน้ำของทะเลสาบที่สวยใส จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็น กุ้ยหลินเมืองไทย เนื่องจากมีหลายๆมุมที่มีบรรยากาศวิวทิวทัศน์คล้ายเมืองกุ้ยหลินสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองจีน นำท่านเที่ยวชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อนถ่ายรูปตามอัธยาศัย | |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 7) |
จากนั้นเดินทางต่อกลับกรุงเทพฯ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง) ถึงกรุงเทพฯ พร้อมความประทับใจครั้ง | |
หมายเหตุ: ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เป็นผู้จัดที่นั่งเท่านั้น โดยจัดสรรที่นั่งตามลำดับการจองพร้อมชำระเงิน | |
หมายเหตุ: รายการทัวร์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาวะอากาศ, สายการบินการจราจร, การเดินทางช่วงเทศกาลหรือวันหยุดต่างๆ เป็นต้น โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยทางผู้จัดจะปรับเปลี่ยนโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของท่านเป็นหลัก เพื่อให้ท่านท่องเที่ยวได้ครบถ้วนตามโปรแกรม | |
ดาวน์โหลดโปรแกรมทัวร์ : ทัวร์ภูเก็ต พังงา
อัตราค่าบริการ
ราคารวม |
• ค่ารถโค้ชปรับอากาศ • ค่าบริการคนขับรถ และค่าน้ำมัน • ค่าที่พัก 2คืน พักห้องละ2-3ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการหรือเทียบเท่า กรณีห้องพักคู่แบบ TWN เต็ม หรือไม่มี ทางบริษัทขอปรับพักแบบเตียงเดี่ยว DBL แทนโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือ กรณีระบุพักห้อง DBL มาแล้วห้องเต็มหรือไม่มีขอปรับพัก TWN แทน กรณีห้องพัก 3 ท่าน TRP อาจเป็น เตียงเสริม หรือฟูกที่นอนเสริมขึ้นอยู่กับแบบที่พักของโรงแรมนั้นๆ • ค่าอาหารตามที่ระบุในโปรแกรม ค่าเข้าชม ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น • ค่าธรรมเนียมเข้าชมตามรายการที่ระบุสำหรับนักท่องเที่ยวไทย • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% • เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง • ค่าประกันอุบัติเหตุตามกรมธรรม์วงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล ตามเงื่อนไขของบริษัทฯประกันภัยที่บริษัททำไว้ (ไม่ครอบคลุมถึงสุขภาพ การเจ็บไข้ได้ป่วย) ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต ทุกกรณี ต้องมีใบเสร็จและเอกสารรับรองทางการแพทย์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
ราคาไม่รวม |
• ค่ามินิบาร์ในห้องพัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด เป็นต้น • ค่าใช้จ่ายและค่าอาหารที่นอกเหนือจากรายการที่ระบุ • ค่าประกันภัยธรรมชาติ และประกันชีวิตส่วนตัว และประกันสุขภาพ • ค่าอาหารสำหรับท่านที่ทานเจ มังสวิรัติ และหรืออาหารสำหรับมุสลิม • ค่าทิปไกด์ ท่านละ 300 บาท • ชาวต่างชาติ ชำระเพิ่มท่านละ 800 บาท |